การ deal ธุรกิจกับคนจีน

家有斗量金，不如自己有本领

บ้านมีทองพันชั่ง สู้ความสามารถไม่ได้

การจำแนกประเภทโรงงาน 1 - 2 - 3 ทำได้อย่างไร 

เป็นคำถามเบสิค ไม่ยากครับ พื้นที่ และจำนวนพนักงานคือคำตอบ

   10-50 คน เรียกว่าขนาดเล็ก

   100-200 คนเรียกว่าขนาดกลาง

   500 คน+ เรียกว่าขนาดใหญ่ จริงๆต้องแล้วแต่ประเภทอุตสาหกรรมด้วย

บางโรงงาน ใช้อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรมาก ใช้คนน้อย 300 คนก็เรียกว่าแบบใหญ่ได้ แต่ 200 คนอย่างไรก็ขนาดกลาง

สินค้าจีนคุณภาพดีไหม

ดีก็เยอะ คุณอย่าลืมว่า ไอโฟนก็ผลิตที่จีน โน๊ตบุ๊คเกือบทุกยี่ห้อก็ผลิตที่จีน แต่ที่สำคัญคุณจะหาเจอหรือไม่ เนื่องจากส่วนใหญ่จะเจอแต่โรงงานขนาดกลาง หรือขนาดเล็กมากกว่าขนาดใหญ่ ซึ่งผลิตสินค้าก๊อปปี้แบรนด์เนม และห่วย แล้วโรงงานที่ผลิตสินค้าคุณภาพดีล่ะ อยู่ที่ไหน บรรดาผู้ผลิตเหล่านี้จะรับ ซึ่งยี่ห้อดัง ๆ ทั้งยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น จะสั่งจากโรงงานแบบนี้ ซึ่งคุณต้องหาให้เจอ จะบอกให้สินค้าที่เห็นในพวกไฮเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ ๆ เช่น โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ ทั่วโลกส่วนใหญ่จะมาจากโรงงานประเภท 2 คือขนาดกลางมากกว่า แต่ก็มีบางไฮเปอร์มาร์ทใหญ่ ๆ สั่งของบางอย่างจากโรงงานขนาดเล็ก ซึ่งคุณภาพ

จะทำอย่างไร หากออเดอร์ของคุณยังไม่มาก

พยายามมองหาคนรู้จัก หรือติดต่อกับบรรดาเอเจนท์ ซึ่งปกติจะไปออกงานแฟร์ ขอเรียกว่า Customer Agent หรือ “CA” พวกนี้จะไปหาของจากผู้ผลิตหรือโรงงานหลาย ๆ แห่งมาเพื่อขาย ซึ่งจะช่วยคุณในทางออกนี้ แต่แน่นอนว่าเงื่อนไขหลาย ๆ อย่างก็ไม่เหมือนกับการติดต่อกับผู้ผลิตโดยตรงเช่น ราคาแพงขึ้นมาอีกนิด (แล้วแต่การต่อรอง) หรือการเคลมสินค้าซึ่งคุณไม่ได้รับสิทธินั้น

พูดถึงเรื่องการเคลมสินค้า ปกติแล้วจะทำกันใน 2 ลักษณะ หรือรูปแบบคือ

1. แถมให้มาเลยพร้อมกับการสั่งเช่น คุณสั่งสินค้าสำเร็จรูป 100 ชิ้น เขาจะแถมมาให้คุณเลย 10 ชิ้น
2. แบบเป็นเงื่อนไขสัญญา ข้อตกลง เช่นสินค้าเสียหายได้ไม่เกิน 1 – 3% (ขึ้นอยู่กับชนิดสินค้า) หากเกินนี้ส่งคืนกลับทั้งตู้ ซึ่งหากตรวจพบต้องส่งกลับคืน ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องสงสาร เคารพผลประโยชน์ตัวเอง สงสารตัวเองเถอะ

อย่างไรก็ดี การจะให้ได้มาทั้ง 1 หรือ 2 ล้วนต้องต่อรองทั้งสิ้น

การดีลธุรกิจกับคนจีน

• สมัยนี้หากคุณคิดว่าการเมล์ โทรคุย หรือแชทกันก็พอ ก็เป็นวิธีการที่ดี แต่การพบหน้ากันสำคัญที่สุดในการดีลกับคนจีน
• คนจีนสมัยนี้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ หรือเจ้าของโรงงานชอบคิดว่า จีนเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก (เนื่องมาจากสื่อสารรัฐครอบงำ) นั่นทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกชาตินิยมโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการพูดภาษาจีนได้สักนิดหน่อย (หากพูดได้ระดับดี ก็ยิ่งเป็นการดีมาก) จะสร้างความประทับใจ และทำให้การเริ่มดีลธุรกิจราบรื่น
• หากได้มีโอกาสกินเหล้ากับคนจีน จงฉวยโอกาสนั้น คนจีนคออ่อน สู้คนไทยไม่ได้ เมื่อเมาแล้วพูดอะไรก็ถูกคอ แล้วส่วนลดจะตามมา
• เวลากิน อย่าใช้มารยาทคนไทย หรือตะวันตก กินกับคนจีนให้ออกเสียง นั่นคืออร่อย บะหมี่กินไม่ต้องกัดให้สั้น ซู๊ดเข้าปากไปทั้งเส้นเสร็จแล้วยกชามซดน้ำซุป กินไม่มีเสียงหมายถึงไม่ให้เกียรติเจ้าภาพ อดได้คะแนน
• ดีลธุรกิจกับคนจีนแผ่นดินใหญ่ อย่าพูดถึงไต้หวัน หากดีลธุรกิจกับคนไต้หวัน ให้เรียกว่าประเทศไต้หวัน อย่าเรียก Chinese Taipei และเรียกประเทศจีนว่า Mainland อย่าเรียก China เนื่องจากอาจมีเคือง
• อย่าให้ของขวัญเป็นนาฬิกา เพราะในภาษาจีนเป็นคำพ้องเสียงของคำว่า “ส่งความตาย”  送死